วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2557

สรภัญ กลอนสดุดีคุณอาจารย์




กลอนสดุดีคุณพระอาจารย์

       วันนี้เป็นวันรวม            มีแต่ความเจริญใจ
เป็นวันอันยิ่งใหญ่                 ของพี่น้องชาวโพนงาม
ได้จัดงานฉลอง                   ของอาจารย์มหาธานินทร์
ผู้ทรงคุณความดี                  เป็นศักดิ์ศรีของชุมชน
       พวกฉันจะได้กล่าว                ประวัติเรื่องราวของอาจารย์
ท่านเกิดที่ดอนหัน                แต่บางบรรพ์กำเนิดมา
นามเดิมท่านนั้นหนา              ชื่อ ธานินทร์  คำกมล
เป็นลูกของพ่อพิมพ์               แม่ทองสี  คำกมล
       ขยันและอดทน            ต่อหน้าที่และการงาน
ต่อมาจึงได้เข้า                    สู่ร่มเงาพระศาสนา
ทดแทนคุณบิดา                   คุณมารดาตามธรรมเนียม
ยึดมั่นในหลักธรรม                ดำรงธรรมพระศาสดา
       พากเพียรเรียนศึกษา      หาวิชามาใส่ตัว
จนจบการศึกษา                  เป็นมหาสมดั่งใจ
ปริญญาก็ใส่ใจ                    ใฝ่ศึกษาอย่างตั้งใจ
จบแล้วสมใจหมาย                ดุษฎีปริญญา
       ตำแหน่งจึงตามมา         เป็นบัญชาของเบื้องบน
ท่านเห็นความเหมาะสม          จึงได้ตราบัญชามา
ให้เป็นเจ้าคณะ                    ของสังฆะในตำบล
จากนั้นจึงได้ส่ง                   เป็นองค์รองในอำเภอ
       ทั้งเป็นอุปัชฌาย์           บวชลูกหลานในตำบล
บุญคุณท่านหนุ่นส่ง               ได้ดำรงในตำแหน่ง
พวกฉันจึงได้กล่าว                เป็นทำนองสดุดี
ขอให้คุณอาจารย์                 สุขสำราญในอาราม
       ทรงศีลและทรงธรรม      เป็นหลักใจของประชา
ขอคุณพระไตรรัตน์               จงปกปักและรักษา
อีกทั้งคุณบิดา                     คุณมารดาบรรดามี
จงรักษาคุณอาจารย์              ให้สุขสันต์ตลอดปี
       ให้มีสติปัญญา             เป็นมรรคาทางดำเนิน
ให้พ้นจากสงสาร                  ชนะมารทุกแห่งหน
ให้ลุถึงนิพพาน                    เป็นสถานอันอุดม
                                    เป็นสถานอันอุดม

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กลอนสรภัญ





กลอนพิมพารำพัน

               ฟังเถิดฟังเรื่องราว               จะได้กล่าวเป็นทำนอง
              กาลนั้นนางพิมพา        ทรงไสยาส์แล้วตื่นมา
              ไม่เห็นพัสดา               พ่อราหุลลูกแม่เอย
              ราหุลเอ๋ยพ่อของเจ้า       ไม่เห็นแล้วลูกแก้วตา
              พิมพาอกกระสัน           หัวใจนั้นเกิดหวั่นไหว
              จากไปไม่รู้เหตุ             ไม่สมเพชแก่ลูกเมีย
              ราหุลนั้นแสนเหลือใจ      ทั้งร้องไห้แลหนทาง
              ปล่อยฉันให้เป็นฮ้าง        อยู่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเอกา

       (ส้อย)

       แม่ฮ้างนี้บ่ได้ไล่ผัวหนี  ผัวหากมีหลายใจ จังได้เป็นน้อแม่ฮ้าง ฮ้างกะส่าง บ่ฮ้างแต่พิมพา  ตั้งแต่ฮังนกเขาอยู่หัวนากะยังฮ้าง
บ่สงสารน้องหล่าพิมพากะบ่ว่า แต่ราหุลนั่นน่าซางมากล้าแม่นเฮ็ดลง ปล่อยให้เป็นกำพร้าตั้งแต่อ่อนเยาว์วัย เอาอิหยังเฮ็ดใจซางได้ดำเอาฮ้าย ให้พิมพาเป็นหม่ายบ่หนำใจซั่นบ้อพี่ ราหุลลูกผู้นี้ กำพรอยพร้อมหม่อมพระนาง
พิมพาออกจากบ้านกะหวังเพิ่งสามี แม่นสิตายเป็นผีกะบ่ลืมลงได้
ผั่นมาเป็นแนวนี้ เจ็บอีหลีจนใจสั่น อกกระสันสั่นท่าว ใจนางน้อยกะเหมื่อยลง อื้ออือๆๆ นา

       อกเอ๋ยสิทธัตถะ            จากพิมพามาหลายที
       ครั้งเป็นนางมัทรี           บวชเป็นชีอยู่ในธรรม
       ทานลูกและทานเมีย       ให้แก่พราหมณ์น่าสงสาร
       โอน้อสิทธัตถะ             จากพิมพาไปไม่ห่วงใย
       ปล่อยฉันไว้กับราหุล      บำเพ็ญบุญไม่อาลัย
       ขอวอนพวกผู้ชาย        อย่าได้เป็นดั่งเช่นนี้
       สงสารหัวอกสตรี          ผู้ภักดีและซื่อสัตย์
       ดูแลเอาใจใส่               ปันน้ำใจให้เมียบ้าง
       ผิดพลาดในบางครั้ง       อภัยนางเถิดคนดี (ซ้ำ)